Sporoyalthailand

ปวดท้องด้านซ้ายเป็นโรคอะไร และอันตรายไหม

เขียนโดย: admin

อัปเดตที่ 10:54 - 11/04/2025

อาการปวดท้องสามารถเกิดขึ้นได้หลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นด้านซ้าย ด้านขวา ด้านบน หรือด้านล่าง ซึ่งแต่ละตำแหน่งก็จะเกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพของอวัยวะภายในที่แตกต่างกัน แล้วอาการ ปวดท้องด้านซ้าย เกิดจากอะไร และมีโรคอะไรที่เกี่ยวข้องบ้าง?

ปวดท้องด้านซ้ายคืออะไร?
อาการปวดท้องด้านซ้ายคืออาการปวดที่เกิดขึ้นบริเวณด้านซ้ายของช่องท้อง โดยอาจเป็นอาการปวดแบบเรื้อรัง หรือปวดบีบรัดเป็นพัก ๆ ความรุนแรงของอาการอาจตั้งแต่เล็กน้อย ปานกลาง ไปจนถึงรุนแรงมาก ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายตัว กระสับกระส่าย และต้องได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วน

โดยตำแหน่งของจุดปวด สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก:
ปวดท้องส่วนบนด้านซ้าย: เกิดขึ้นบริเวณใต้ชายโครง มักเกี่ยวข้องกับกระเพาะอาหาร ม้าม ตับอ่อน ปอด และลำไส้ใหญ่ บางกรณีอาจเป็นสัญญาณของอาการหัวใจวาย ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ปวดท้องส่วนล่างด้านซ้าย: มักมีสาเหตุจากลำไส้ใหญ่ กระเพาะปัสสาวะ หรือมดลูกและรังไข่ด้านซ้ายในผู้หญิง รวมถึงโรคอื่น ๆ อย่าง ถุงลมลำไส้อักเสบ นิ่วไต ไส้เลื่อน ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ซีสต์รังไข่ และประจำเดือน

สาเหตุที่พบบ่อย
สาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของอาการปวดท้องด้านซ้าย ได้แก่:

ถุงลมลำไส้อักเสบ
เกิดจากการติดเชื้อในถุงลมที่พองออกจากผนังลำไส้ใหญ่ พบได้บ่อยในผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี อาการเด่น:
ปวดบริเวณด้านซ้ายของช่องท้อง ท้องอืด บวม
เป็นไข้
ปวดขณะขับถ่าย
คลื่นไส้ อาเจียน
เบื่ออาหาร
พฤติกรรมการขับถ่ายเปลี่ยนแปลง

อาการท้องผูก
มักเกิดจากการดื่มน้ำน้อย ขาดไฟเบอร์ ทานแป้งหรือเนื้อสัตว์มากเกินไป และขาดการออกกำลังกาย อาการ:
อุจจาระแข็ง แห้ง
ปวดท้องตามแนวลำไส้ รวมถึงด้านซ้าย
อุจจาระมีเลือด
ไม่สามารถถ่ายได้
ท้องอืด หนักท้อง ไม่สบายตัว

นิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ
นิ่วในทางเดินปัสสาวะเป็นผลึกแข็งที่เกิดจากการตกตะกอนของกรดยูริกหรือแคลเซียม ซึ่งสามารถก่อตัวในกรวยไต ท่อไต หรือกระเพาะปัสสาวะ เมื่อนิ่วเหล่านี้เสียดสีกับเยื่อบุหรือกล้ามเนื้อของระบบทางเดินปัสสาวะ จะทำให้เกิดอาการปวดบริเวณท้องด้านซ้ายได้ง่ายมาก
อาการ:
ปวดท้องซ้าย ปวดหลัง ปวดขาหนีบ
ปัสสาวะบ่อย แต่ปริมาณน้อย
ปัสสาวะมีเลือดปน
คลื่นไส้ อาเจียน
ไข้สูง 38.3°C ขึ้นไป

แผลในกระเพาะอาหาร
มักเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย HP การใช้ยาต้านการอักเสบ หรือการกินอาหารไม่เป็นเวลา
อาการ:
เบื่ออาหาร ท้องไม่ย่อย
แสบท้องตรงบริเวณกระเพาะ
คลื่นไส้ อาเจียน
น้ำหนักลดเร็ว

ลำไส้อักเสบ
เกิดจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือพยาธิ รวมถึงพฤติกรรมการกินอาหารที่ไม่สะอาด
อาการ:
ปวดท้องด้านซ้าย
ท้องเสีย ควบคุมไม่ได้ และอาจมีเลือดปน
คลื่นไส้ อาเจียน
เบื่ออาหาร ระบบย่อยไม่ดี
อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว
น้ำหนักลดเร็วผิดปกติ

สาเหตุเฉพาะในเพศหญิง
ช่วงมีประจำเดือน: ปวดจากการบีบตัวของมดลูก มักมีอาการร่วม เช่น ปวดหลัง ปวดหัว ท้องเสีย ท้องอืด
ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่: มีอาการปวดเรื้อรัง เลือดออกผิดปกติ เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ เจ็บเวลาขับถ่าย ช่องคลอดแห้ง ท้องเสีย/ท้องผูก
ซีสต์รังไข่: ถุงน้ำในรังไข่ อาจมีอาการปวดด้านซ้าย ปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ ปวดเชิงกราน ปัสสาวะลำบาก เลือดออกนอกประจำเดือน คลื่นไส้ ปวดเวลาถ่าย

แนวทางการดูแลรักษา
เนื่องจากอาการปวดท้องด้านซ้ายสามารถเกิดจากหลายสาเหตุ การประเมินเบื้องต้นจึงควรพิจารณาจากระดับความรุนแรงของอาการ และลักษณะของอาการว่าเป็นแบบเฉียบพลันหรือเรื้อรัง จากนั้นจึงทำการตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม
สำหรับอาการปวดที่ไม่รุนแรง เกิดขึ้นชั่วคราว หรือเกิดจากสาเหตุที่ไม่อันตราย เช่น ช่วงมีประจำเดือน ท้องผูก เป็นต้น สามารถดูแลรักษาได้ที่บ้าน ด้วยการพักผ่อนและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต
ในกรณีที่อาการปวดเกิดจากการอักเสบเรื้อรัง ควรได้รับการรักษาด้วยยา ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
แต่หากเป็นอาการเฉียบพลัน เช่น ไส้เลื่อน อัณฑะบิดตัว ลำไส้อักเสบ หรือมีเลือดออกภายในอย่างรุนแรง การผ่าตัดจะเป็นวิธีที่ควรได้รับการพิจารณาเป็นลำดับแรก
รีบพบแพทย์ทันทีหากมีอาการดังนี้:
ปวดรุนแรงเฉียบพลัน และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ไข้สูงต่อเนื่อง กินยาลดไข้ไม่ดีขึ้น
ถ่ายเป็นเลือดหรือมีมูกเลือด
อาเจียนมากจนเสี่ยงขาดน้ำ
ตัวเหลือง ตาเหลือง
น้ำหนักลดเร็วผิดปกติ
อาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน
📞 ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจาก SPO ROYAL ฟรี โทรเลย: 0942828279

ผู้เขียนCharintip Kunrat

บทความที่เกี่ยวข้อง

การรับมือกับอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
การรับมือกับอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ

อาการท้องอืดและแน่นท้องหลังรับประทานอาหารเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตประจำวันของคุณ โดยอาการเหล่านี้อาจเกิดจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารหรือเป็นสัญญาณของโรคระบบทางเดินอาหารบางชนิด เช่น ลำไส้อักเสบ นิ่วในไต หรือนิ่วในถุงน้ำดี อาการที่มักพบร่วมด้วย ได้แก่ ปวดท้องแบบตื้อ ๆ เรอเปรี้ยว คลื่นไส้ หรืออาเจียน การระบุสาเหตุของอาการท้องอืดและแน่นท้องจะช่วยให้คุณเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมได้

6 สาเหตุหลักที่ทำให้ระบบย่อยอาหารในเด็กเล็กมีปัญหา พร้อมวิธีแก้ไขที่ได้ผล
6 สาเหตุหลักที่ทำให้ระบบย่อยอาหารในเด็กเล็กมีปัญหา พร้อมวิธีแก้ไขที่ได้ผล

ระบบย่อยอาหารผิดปกติเป็นปัญหาที่พบบ่อยในเด็กเล็ก โดยเฉพาะในช่วงปีแรก ๆ ของชีวิตที่ระบบย่อยอาหารและภูมิคุ้มกันยังไม่สมบูรณ์ มาดู 6 สาเหตุหลักที่ทำให้เด็กเล็กระบบย่อยอาหารมีปัญหา และแนวทางแก้ไขที่ได้ผลในปัจจุบัน

แยกให้ออก ลำไส้อักเสบกับกลุ่มอาการลำไส้แปรปรวน (IBS) ไม่ใช่โรคเดียวกัน
แยกให้ออก ลำไส้อักเสบกับกลุ่มอาการลำไส้แปรปรวน (IBS) ไม่ใช่โรคเดียวกัน

หลายคนสับสนเพราะอาการคล้ายกัน เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย หรือท้องอืด แต่ความจริงแล้ว "ลำไส้อักเสบ" และ "กลุ่มอาการลำไส้แปรปรวน" คือคนละเรื่องกัน! รู้ให้ชัด จะได้รักษาให้ถูกทาง

ลำไส้อักเสบหายเองได้ไหม
ลำไส้อักเสบหายเองได้ไหม

ลำไส้อักเสบ เป็นหนึ่งในโรคทางเดินอาหารที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน และส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้คนจำนวนมาก หลายคนมักมองข้ามหรือไม่รีบรักษา เพราะคิดว่าโรคนี้สามารถหายเองได้ แล้วความจริงคืออะไร? ลำไส้อักเสบสามารถหายเองได้จริงหรือไม่? บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงสาเหตุ อันตราย และแนวทางการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ

7 พฤติกรรมการรับประทานอาหารที่เป็นอันตรายต่อระบบย่อยอาหาร
7 พฤติกรรมการรับประทานอาหารที่เป็นอันตรายต่อระบบย่อยอาหาร

ระบบย่อยอาหารมีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพโดยรวม.ถึงอย่างนั้น,พฤติกรรมหลายๆอย่างในชีวิตประจำวันอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบย่อยอาหาร ซึ่งเราอาจไม่ได้สังเกตเห็น.

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการรักษาโรคทางเดินอาหาร
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการรักษาโรคทางเดินอาหาร

โรคทางเดินอาหาร เช่น ลำไส้อักเสบเรื้อรัง กลุ่มอาการลำไส้แปรปรวน หรือปัญหาการย่อยอาหาร อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อคุณภาพชีวิต อย่างไรก็ตาม หลายคนมักทำผิดพลาดในการรักษา ทำให้อาการยืดเยื้อหรือรุนแรงขึ้น มาเรียนรู้ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยและวิธีแก้ไขในบทความนี้กันเถอะ!

0823633303